25.8 C
Thailand
Friday, September 20, 2024
Homeการเรียน-ทำงานวิธีหางานให้ได้งาน รวดเร็ว ตรงใจ ใน 9 ขั้นตอน

วิธีหางานให้ได้งาน รวดเร็ว ตรงใจ ใน 9 ขั้นตอน

1. ตั้งเป้าหมายและรวบรวมทางเลือก

การหางานใหม่อาจเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของใครหลายคน จึงต้องตั้งเป้าหมายและเข้าใจทางเลือกที่มีให้รอบด้านซะก่อนว่าจะหางานตำแหน่งเดิม ตำแหน่งสูงขึ้น หรือเปลี่ยนสายงาน เพราะแต่ละข้อก็มีข้อดี-ข้อเสีย และหากเลือกผิดก็อาจทั้งเสียเวลาและโอกาสไปอีกมากมาย

หางานตำแหน่งเดิม

  • ข้อดี: คุณสมบัติเราพร้อมอยู่แล้ว มีโอกาสได้งานสูงและเร็ว
  • ข้อเสีย: เรียกเงินเดือนได้ไม่สูง อาจเติบโตช้า ตำแหน่งและเงินเดือนเริ่มตัน (แต่ถ้าเป็นเด็กจบใหม่ ทำงานยังไม่เกิน 2 ปี ก็ยังโอเค)

หางานตำแหน่งสูงขึ้น

  • ข้อดี: ท้าทาย เงินเดือนก้าวกระโดด หน้าที่การงานเติบโต
  • ข้อเสีย: โอกาสได้งานน้อย ความรับผิดชอบมากขึ้น ความสามารถและประสบการณ์อาจไม่ถึง

เปลี่ยนสายงาน

  • ข้อดี: ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ต่อยอดความรู้เดิม เพิ่มโอกาสเติบโตในอนาคต
  • ข้อเสีย: อาจได้เงินเดือนเยอะขึ้น เท่าเดิมหรือน้อยลงก็ได้ ต้องเตรียมตัวเยอะมาก โอกาสได้งานน้อย

2. เติมเต็มทักษะที่จำเป็น

ลองเปิดเว็บหางาน ไล่ดู Job description ของตำแหน่งที่สนใจ แล้วดูว่ามีข้อไหนที่เรายังขาด หรือทำได้ไม่ดีพอบ้าง แล้วเริ่มพัฒนาด้านไปด้วยระหว่างหางานใหม่

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า การเพิ่มทักษะก่อนหางานใหม่จำเป็นสำหรับคนที่สมัครงานตำแหน่งสูงขึ้นและเปลี่ยนสายงานเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว แม้แต่คนที่สมัครงานตำแหน่งเดิมก็ควรทำ เพราะนอกจากจะเพิ่มโอกาสได้งานแล้ว ยังอาจเรียกเงินเดือนได้เยอะขึ้นด้วย

เราสามารถเพิ่มทักษะได้หลากหลายวิธี เช่น ศึกษาด้วยตัวเอง ลงเรียนคอร์สพิเศษ (ถ้ามีประกาศนียบัตรจะยิ่งดี) หรือสอบวัดระดับภาษา

3. เริ่มมองหางานจากคนใกล้ตัว

การมองหางานจากคนใกล้ตัวอย่าง เพื่อน แฟน ครอบครัว ฯลฯ เป็นวิธีหางานที่มีโอกาสสำเร็จสูง ทั้งในกรณีที่เพื่อนชวนไปทำด้วยกัน หรือหาคนไปแทน เพราะมักจะรู้จักนิสัยใจคอ หรือรู้ฝีมือกันดีอยู่แล้ว และหากได้ทำงานร่วมกันก็จะปรับตัวกับที่ทำงานใหม่ได้ง่ายขึ้นด้วย

ข้อควรระวัง

จริงๆ แล้ว การหางานวิธีนี้ก็เป็นดาบสองคม มีโอกาสได้งานสูงและเร็ว แต่ด้วยความที่สนิทกันหรือเร่งหาคนมากๆ เพื่อนอาจจะประเมินเราผิด คิดว่าเราทำงานตำแหน่งนี้ได้ดี ทั้งที่จริงๆ เราอาจจะไม่เหมาะกับงานนี้ก็ได้ เพราะฉะนั้นหากได้งานจากคนใกล้ตัว ก็ต้องคิดพิจารณาให้ถี่ถ้วนไม่ต่างจากการสมัครงานเอง

4. หางานตามเว็บไซต์สมัครงาน บริษัทจัดหางาน

ติดตามช่องทางที่มีงานที่เราสนใจอยู่ให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นเว็บหางาน เว็บบริษัท กลุ่มหางานในเฟซบุ๊ก ฯลฯ หากต้องการได้งานเร็ว ก็ลองเลือกตำแหน่งที่รับสมัครเยอะ หรือรับด่วน หรือจะลองใช้บริษัทนายหน้าหางาน ก็ไม่เสียหาย เพราะเราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลย บริษัทเหล่านี้จะได้ค่าคอมมิชชันจากบริษัทที่จ้างคุณอยู่แล้ว

เว็บไซต์หางานที่น่าสนใจ

5. ปรับแต่งเรซูเม่และพอร์ตโฟลิโอให้ตรงกับงาน

ตำแหน่งงานดีๆ อาจหลุดมือไปได้ หากมัวแต่รีรอชักช้า เพื่อความรวดเร็วในการสมัครงาน ควรทำเรซูเม่และเตรียมพอร์ตโฟลิโอไว้ตั้งแต่ขั้นตอนที่ 2 และเมื่อเจอตำแหน่งที่อยากจะสมัครแล้ว ค่อยมาปรับแต่งให้เข้ากับงานนั้นๆ อีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นชื่อตำแหน่ง สโคปงาน ประสบการณ์ทำงาน ตัวอย่างผลงาน ฯลฯ เพื่อให้สอดคล้องกับงานนั้นๆ ให้มากที่สุด

6. คุยรายละเอียดงานกับ HR ให้เคลียร์

เมื่อ HR โทรมานัดสัมภาษณ์ ควรใช้โอกาสนี้สอบถามรายละเอียดงานให้เคลียร์ว่าตรงกับที่เราคิดไว้หรือไม่ และเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผู้สัมภาษณ์ว่ามีใครบ้าง กี่คน เพื่อใช้เตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์งาน

7. เตรียมตัวสัมภาษณ์งาน

การเตรียมตัวสัมภาษณ์งานที่ดีช่วยเพิ่มโอกาสได้งานสูงมาก สิ่งที่ควรทำ ได้แก่ เก็งคำถาม เตรียมคำตอบ ฝึกพูดจนมั่นใจ เตรียมเอกสารที่จำเป็น และเลือกชุดที่เหมาะสม หากเป็นการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์หรือออนไลน์ ก็ต้องมั่นใจว่าสัญญาณอินเทอร์เน็ตจะไม่มีปัญหา

8. สร้างความประทับใจในวันสัมภาษณ์

  • ถึงที่หมาย หรือเข้าห้องประชุมออนไลน์ก่อนเวลา 5-10 นาที
  • เตรียมเอกสารสำคัญ เรซูเม่ และพอร์ตโฟลิโอให้พร้อม
  • พูดจาฉะฉานและมั่นใจ

9. ติดตามผลการสัมภาษณ์

หลังจากสัมภาษณ์จบ อย่าลืมถามว่าจะรู้ผลประมาณวันไหน เพราะบางบริษัทไม่มีการแจ้งผลหากไม่ได้งาน การขอให้เขาแจ้งกลับมาด้วย ก็เป็นวิธีที่ดีในการติดตามผล หรือหากเขาเงียบไป เราก็สามารถโทรไปสอบถามผลได้ เพราะหากไม่รู้ให้แน่ชัดว่าได้หรือไม่ได้งานกันแน่ ก็อาจทำให้เราว้าวุ่นจนไม่มีสมาธิกับงานปัจจุบัน หรือการหางานที่ต่อไป

สรุป

“ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน” แต่ถ้าไม่เลือกงานให้ดี อาจจะทั้งจน ทั้งเสียเวลา ถึงเราจะอยากได้งานมากขนาดไหน แต่ก็อย่ารีบร้อนจนลืมพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่างานที่จะสมัครหรือตอบตกลงไปนั้นเหมาะกับเราจริงๆ หรือไม่ มีโอกาสให้เราได้เรียนรู้หรือเติบโตในอนาคตหรือไม่ หรือจริงๆ แล้ว ที่ยังหางานไม่ได้ซักที เป็นเพราะไม่มีงานดีๆ หรือเรายังดีไม่พอ และต้องตั้งใจพัฒนาตัวเองให้มากกว่านี้กันแน่?

อย่างไรก็ตาม หากเราเลือกงานผิด หรือยังดีไม่พอ ก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย เพียงแต่หากประเมินสถานการณ์ได้ถูกต้อง และรู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อ การหางานก็อาจเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เราทบทวนชีวิตและค้นพบสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆ ก็เป็นได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ห้ามพลาด